Tip : การดูแลใบปัดน้ำฝน (2)
เราได้พูดถึงการตรวจสอบ และการดูแลใบปัดน้ำฝนไปในคราวที่แล้ว โดยยังไม่ได้คุยกันว่า นอกจากแสงแดด ซึ่งจริงๆ แล้ว ก็คือ รังสีอุลตร้าไวโอเลต แล้ว ยังมีปัจจัยอะไรอีกบ้างที่ทำให้ใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพเร็วเกินควร ปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่รถต้องเจอะเจออยู่เป็นประจำ คือ
- น้ำมัน ทั้งน้ำมันจากแว็กซ์ที่ใช้เคลื่อบสีรถ และจากท่อไอเสียเป็นน้ำมันที่ทำให้ยางเสื่อมสภาพ
- เศษ ฝุ่น ผง ทราย โคลน ความสกปรกที่ลอยมากับอากาศ
- ความชื้น จากฝนกรด (ในบริเวณเขตอุตสาหกรรมหนาแน่น) และ ความชื้นในอากาศทั้งจากพื้นที่ใกล้และไกลทะเล
เพราะฉะนั้น การหมั่นตรวจตราใบปัดน้ำฝนจึงเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นประจำ ซึ่งการดูแลที่ปัดน้ำฝนนั้น นอกจากดูแลรักษาใบปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี ซึ่งได้นำข้อมูลมาแชร์กันไปในคราวก่อนแล้วนั้น ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ต้องดูแลควบคู่กันไปด้วย คือ น้ำในถังที่ใช้ฉีดกระจกเพื่อให้ทำความสะอาดได้หมดจด และรูฉีดน้ำ
น้ำที่ใช้ฉีดล้างกระจกหน้ารถนี้แค่น้ำสะอาดธรรมดาก็เพียงพอ โดยเฉพาะเมื่อคุณทำความสะอาดกระจกหน้ารถอยู่เป็นประจำ แต่หากต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยทำความสะอาดกระจกก็สามารถใช้ได้ แต่ต้องให้แน่ใจว่า ผลิตภัณฑ์ที่เติมลงไปนั้นไม่ทำอันตรายกับสีรถหากละอองน้ำที่ฉีดกระจกไปโดนตัวถังรถ และการเติมผลิตภัณฑ์ช่วยทำความสะอาดกระจกนั้น ให้ผสมกับน้ำให้เข้ากันดีก่อนแล้วจึงค่อยเติมลงในถังน้ำสำหรับฉีดล้างกระจก
ส่วนรูหัวฉีดนั้น เป็นไปได้ที่หลังจากระยะเวลาหนึ่ง หัวฉีดอาจตัน หรือ มุมของหัวฉีดจะเปลี่ยนไปบ้าง ซึ่งทำให้ฉีดน้ำแล้วน้ำไม่ออก ออกไม่แรงพอ หรือ ฉีดไม่ตรงทิศทาง วิธีแก้ไขง่ายๆ คือ ในกรณีที่ตัน หรือ น้ำไม่พุ่งออกมาแรงพอก็ให้เอาปลายเข็มมาแยงๆ เพื่อให้ฝุ่นผงที่อุดตันอยู่นั้นหลุดออกไป และเข็มนี้ก็ใช้ปรับทิศทางของรู้เข็มได้ด้วย โดยค่อยๆ ปรับทิศทาง แล้วลองฉีดน้ำดู จนกระทั่งได้องศาตามต้องการ
ข้อมูลที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับใบปัดน้ำฝน คือ รถยนต์แต่ละรุ่น แต่ละแบบใช้ใบปัดน้ำฝนที่มีขนาดไม่เท่ากัน การใช้ใบปัดน้ำฝนที่มีขนาดสั้นไป หรือ ยาวไป จะมีผลต่อการปัดน้ำฝนออกจากกระจกหน้า ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดี เพราะฉะนั้นตรวจดูขนาดใบปัดน้ำฝนในคู่มือรถก่อนที่จะซื้ออันใหม่ด้วยนะครับ
ถึงแม้ใบปัดน้ำฝนจะเป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็กที่ไม่ได้ส่งผลต่อเครื่องยนต์รถของคุณ แต่มันมีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของคุณ และผู้ร่วมทางคนอื่นๆ เพราะฉะนั้น จึงควรเลือกใช้ใบปัดน้ำฝนที่ผลิตจากวัสดุ และเนื้อยางที่มีคุณภาพดี โดยเฉพาะที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของบ้านเรา ซึ่งหมายความว่าถึงจะแพงกว่าหน่อยแต่ก็ใช้งานได้มีประสิทธิภาพ และคงนานกว่า นอกจากใบยางแล้ว ควรเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนที่มีโครงทำจากวัสดุที่เป็นโลหะทั้งโครง เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้โครงกระพือเมื่อขับรถด้วยความเร็วสูง และยังสามารถเพิ่มน้ำหนักในการรีดน้ำให้เรียบอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าการดูแล รักษาใบปัดน้ำฝน และ อุปกรณ์ที่ช่วยทำความสะอาดกระจกหน้าไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นเอง อย่าลืมแล้วกันนะครับ
อ้อ! ส่วนใครอยากดูวิธีการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน เพื่อจะได้ทำด้วยตัวเองได้ก็ลองถามพี่กูเกิ้ลได้ครับ โดยค้นหาด้วยวลีว่า เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนด้วยตัวเองมีหลายเว็บไซต์อธิบายอย่างละเอียดพร้อมภาพประกอบชัดเจนเลยครับ
ที่มา:
http://www.tqm.co.th
https://www.rainx.com/tips-information/wiper-blade-maintenance-tips/
|