Tip สัญลักษณ์ไฟเตือนบนแผงหน้ารถบอกอะไรเราบ้าง

สัญลักษณ์บนแผงหน้ารถเป็นสัญญานเตือนความผิดปกติของเครื่องยนต์ หรือ การทำงานของระบบต่างๆ ให้เรารู้ตัวเพื่อแก้ไขได้ก่อนที่ความผิดปกตินั้นจะนำไปสู่อุบัติเหตุ หรือปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องซึ่งอาจเป็นความเสียหายที่ร้ายแรงได้ เพราะฉะนั้น อย่านิ่งนอนใจ มาทำความรู้จักกับสัญลักษณ์เหล่านี้กันไว้บ้างก็ดีนะครับ เริ่มกันเลยที่

สัญลักษณ์รูปเครื่องยนต์นี้เป็นไฟแสดงสถานะระบบควบคุมเครื่องยนต์ขัดข้อง หากสัญญานนี้ปรากฏขึ้นในระหว่างที่ขับรถ หมายความว่าระบบเครื่องยนต์มีปัญหาระบบนี้เชื่อมโยงอยู่กับระบบเซ็นเซอร์โดยตลอดทั้งคันรถ เพราะฉะนั้น ปัญหาอาจเป็นส่วนไหนก็ได้ เพราะฉะนั้น รีบนำรถเข้าซ่อมโดยเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหารุนแรงมากขึ้น

นี่เป็นไฟเตือนว่าแรงดันน้ำมันเครื่องต่ำ เมื่อติดเครื่องรถแล้วไฟสัญลักษณ์นี้ไม่ดับ หรือ ติดๆ ดับๆ หมายความว่า ระดับน้ำมันเครื่องอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายหากยังขับรถต่อไปโดยไม่แก้ไข อาการที่แรงดันน้ำมันเครื่องต่ำนี้อาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น  ปั๊มน้ำมันเครื่องเสีย ไส้กรองตัน เป็นต้น การตรวจสอบเบื้องต้น ให้ลองเติมน้ำมันเครื่อง หากไฟเตือนยังไม่ดับก็แสดงว่าปั๊มมีปัญหา หากตรวจพบว่าระบบหล่อลื่น หรือ น้ำมันเครื่องรั่วไหลไม่ควรสตาร์ทรถ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น รีบแจ้งศูนย์บริการให้นำรถไปซ่อมดีกว่านะครับ

รูปร่างคล้ายแบตเตอรีนี้ เป็นสัญญานเตือนระบบไฟชาร์ทครับ ถ้าติดเครื่องรถแล้วสัญญานนี้ยังแสดงอยู่ หรือ แสดงเป็นระยะๆ แสดงว่าระบบชาร์ทไฟมีปัญหา ซึ่งปัญหาอาจมาจากแบตเตอรีเสื่อมสภาพ ทำให้เก็บไฟไม่อยู่ หรือเกิดจากไดชาร์จไม่ผลิตกระแสไฟ การแก้ปัญหาเบื้องต้น ให้ลองขยับขั้วแบตเตอรีให้แน่น หรือต่อพ่วงแบตเตอรีกับรถคันอื่น แล้วจึงนำรถไปยังร้านไดนาโม หรือ ศูนย์บริการ

สัญญานเตือนระบบเบรค ซึ่งอาจหมายถึงคุณลืมลดเบรคมือลง หรือ เตือนว่าน้ำมันเบรคลดลงต่ำกว่าที่ กำหนด ก็ให้ตรวจคันเบรคมือ ตรวจระดับน้ำมันเบรค และผ้าเบรค สองประการหลัง ถ้าพบความผิดปกติก็เอารถไปให้ช่างเขาแก้ไขครับ

นี่ก็เป็นสัญญานเตือนระบบเบรคอีกสัญญานหนึ่ง เป็นไฟเตือนป้องกันระบบเบรคล็อค ซึ่งจะมีแต่ในรถยนต์ที่มีระบบ ABS เท่านั้น เมื่อสัญญานเตือนแสดงขึ้นมานั้นให้รีบนำรถเข้าตรวจ แก้ไขทันที  มันอาจะเป็นแค่ฝุ่นที่ไปค้างอยู่ในระบบเซ็นเซอร์ตัวใดตัวหนึ่ง หรือ เป็นอะไรที่ร้ายแรง (และแพง) กว่านั้น เช่นระบบABSทั้งระบบมีปัญหาก็ได้ ปกติไฟสัญญานนี้จะแสดงเมื่อคุณติดเครื่องรถ และดับไปหลังจากนั้นไม่นาน แต่ถ้าไฟABSกระพริบ หรือ ส่งสัญญานอย่างอื่นเพื่อดึงให้คุณมาสนใจ ไม่ค้างอยู่เฉยๆ ให้เข้าใจว่า มันกำลังส่งสัญญานว่ามีปัญหาร้ายแรงซื่งอาจหมายถึงระบบเบรคทั้งหมดไม่ทำงานก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่านอนใจนะครับ

นี่คือ ไฟเตือนอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ ซึ่งเมื่อไรมันแสดงเป็นสีแดง มันกำลังบอกคุณว่า เครื่องยนต์กำลังร้อนจัดครับ ระบบหล่อเย็นกำลังมีปัญหา ซึ่งอาจมาจากระดับน้ำในหม้อน้ำรถยนต์ต่ำเกินไป หรือ ท่อน้ำ หรือ หม้อน้ำแตก เกิดการรั่ว เบื้องต้น อย่าเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่หม้อน้ำร้อนจัดเด็ดขาด ให้รอจนเครื่องยนต์เย็นลงก่อน แล้วลองเติมน้ำ และตรวจดูร่องรอยการรั่วซึมที่ใต้ท้องรถ หากไม่พบอาการน้ำหยด และไฟสัญญานไม่แสดงอีกต่อไป ก็สามารถใช้รถต่อไปได้ แต่หากพบรอยรั่ว ให้นำรถเข้าศูนย์บริการที่แก้ปัญหาหม้อน้ำรั่ว อย่าฝืนขับรถทั้งๆ ที่ความร้อนขึ้นสูงเพราะจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายรุนแรง หรืออาจถึงไฟลุกไหม้ได้

ไฟเตือน SRSจะมีเฉพาะในรถยนต์ที่มีระบบถุงลมนิรภัยเท่านั้น เมื่อติดเครื่องรถแล้ว สัญญานนี้ไม่ดับ แสดงว่าระบบถุงลมนิรภัยมีปัญหา โดยเฉพาะหลังจากที่รถคันนั้นเกิดอุบัติเหตุมา ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อแก้ไขทันที เพื่อป้องกันถุงลมนินภัยระเบิด หรือ ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือ ไม่ทำงานเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้

ทีนี้ คุณก็จะเข้าใจว่ารถของคุณกำลังบอกอะไรกับคุณ และไม่ตกอกตกใจ (เหมือนผมสมัยก่อนโน้น) อีกต่อไปแล้วนะครับ

ที่มา   http://www.carbibles.com/maintenancetips.html
จุลสารเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการจัดการภัยพิบัติ ลด-หยุด-ภัย ฉบับ เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557